เทรดเดอร์ทุกคนต่างพยายามมองหา โบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้และดีที่สุด เพราะการคัดเลือกโบรกเกอร์นั้น มีบทบาทสำคัญมากต่อการเทรดในตลาด Forex ของคุณ

ตัวอย่าง: หากคุณเจอหุ้นราคาดีและตัดสินใจที่จะสั่งซื้อหรือสั่งขาย แต่เซิร์ฟเวอร์โบรกเกอร์ของคุณกลับประมวลผลได้ช้ามาก ซึ่งกว่าคุณจะทำรายการเสร็จ ราคาหุ้นก็เปลี่ยนไปแล้ว (เราต่างรู้ดีว่าตัวเลขในตลาดหุ้นมีความผันผวนมากแค่ไหน) และนั่นหมายถึงคุณได้สูญเสียโอกาสในการทำกำไรไปเรียบร้อยแล้ว หรือที่แย่กว่านั้นก็คืออาจสูญเสียเงินของคุณด้วย

ตัวอย่างข้างต้นนี้แสดงให้เห็นถึงผล กระทบโดยตรงของโบรกเกอร์ต่อการเทรดของเรา ดังนั้นเราทุกคนจึงต้องการค้นหาโบรกเกอร์ Forex ที่ดีที่สุด ซึ่งจากประสบการณ์การเทรดที่มีมายาวนานและการได้ลองใช้บริการกับหลาย โบรกเกอร์ ทำให้บรรดาผู้เชี่ยวชาญร่วมกันจัดอันดับ Top 5 โบรกเกอร์ Forex ขึ้นมา ดังนี้ :

1. โบรกเกอร์ Exness 
2. โบรกเกอร์ GMI EDGE
3. โบรกเกอร์ XM
4. โบรกเกอร์ IC Markets
5. โบรกเกอร์ FBS

จากนี้พวกเราจะอธิบายว่าทำไมทั้ง  5 โบรกเกอร์นี้จึงขึ้นแท่นโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือและดีที่สุดมาตรฐานของโบรกเกอร์ที่ดีที่สุด

จะเห็นว่า มีเทรดเดอร์หลายคนคิดว่าการเลือกโบรกเกอร์ที่ใช่นั้นเป็นเรื่องง่าย ถ้าคุณแค่เลือกโบรกเกอร์ที่คิดค่าธรรมเนียมต่ำ หรือโบรกเกอร์ที่มีใบอนุญาต หรือโบรกเกอร์ที่ให้โบนัสก้อนโตแล้วล่ะก็ บอกได้ทันทีเลยว่า คุณคิดผิดมหันต์ โบรกเกอร์ Forex ที่มีค่า spread ต่ำ อาจมีค่า​ slippages ที่สูง ส่วนโบรกเกอร์ที่ให้โบนัสมาก ก็อาจมีการให้บริการเซิร์ฟเวอร์ที่ช้า ในการเลือกโบรกเกอร์ที่เหมาะสม คุณต้องพิจารณาให้รอบด้านจากหลายปัจจัย และนี่คือมาตรฐานที่เราใช้ในการประเมินโบรกเกอร์ Forex ทั้งหมด

ความน่าเชื่อถือ

• ใบอนุญาต Forex ของโบรกเกอร์ Forex

เมื่อพูดถึงเรื่องความน่าเชื่อถือ ย่อมนึกถึงเรื่องของความมั่นคงและความปลอดภัย โบรกเกอร์สามารถดูแลรักษาเงินทุนของคุณให้ปลอดภัยได้หรือไม่? โบรกเกอร์สามารถเชื่อได้หรือเปล่า? ถ้าโบรกเกอร์ที่เลือกกลายเป็นโบรกเกอร์มิจฉาชีพขึ้นมาล่ะ? ทำยังไงถึงจะรู้ได้ว่าโบรกเกอร์นั้นน่าเชื่อถือ? คำตอบนั้นก็คือ “ใบอนุญาต” ใบอนุญาตเป็นเหมือนใบรับรองที่สถาบันทางการเงินที่มีชื่อเสียงและเชื่อถือ ได้มอบให้กับโบรกเกอร์ที่ผ่านมาตรฐานตามที่กำหนด ใบอนุญาต Forex แสดงถึงมาตรฐาน ความสามารถ และชื่อเสียงของโบรกเกอร์ในตลาด Forex เมื่อโบรกเกอร์ได้รับการรับรองจากสถาบันทางการเงินแล้ว คุณก็สามารถที่จะให้ความไว้วางใจในโบรกเกอร์เหล่านั้นได้ โดยทั้ง 5 โบรกเกอร์นี้ล้วนได้รับใบอนุญาตแล้ว ดังนั้นในหัวข้อนี้จึงไม่มีโบรกเกอร์ไหนที่โดดเด่นนัก

• ประวัติการดำเนินกิจการ

Forex เป็นตลาดหนึ่งที่มีความผันผวนเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะโบรกเกอร์ ที่ยิ่งวันยิ่งมีจำนวนรายใหม่เกิดขึ้นมากมาย จนทำให้ระดัับการแข่งขันยิ่งทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น แต่หากมีโบรกเกอร์ Forex ไหนที่สามารถดูแลการดำเนินกิจการได้เป็นระยะเวลานาน ไม่ยอมถูกกลืนหายไปจากตลาด ก็จะเป็นหนึ่งในหลักเกณฑ์การพิจารณาและประเมินระดับความน่าเชื่อถือของ โบรกเกอร์ Forex นั้นๆ

• มูลค่าการซื้อขาย

ปัจจัยอื่นที่ช่วยสนับสนุนความน่าเชื่อ ถือของโบรกเกอร์ก็คือ มูลค่าการซื้อขายของโบรกเกอร์ ถ้าโบรกเกอร์มีมูลค่าการซื้อขายสูง หมายถึงมีคนจำนวนทมากมาทำการเทรดกับโบรกเกอร์นั้น

อีกหนึ่งอย่างก็คือ ระดับความนิยมของโบรกเกอร์นั้นๆ ถ้าโบรกเกอร์มีชื่อเสียง ก็จะหมายความว่า เป็นโบรกเกอร์รายใหญ่และมีมูลค่าการซื้อขายสูง ซึ่งส่งผลให้โบรกเกอร์นั้นมีความน่าเชื่อถือเพิ่มมากขึ้น พวกเราได้ผลลัพธ์จากเครื่องมือวิเคราะห์การค้นหาของผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต ด้วย Google Keyword Planner ซึ่งแสดงข้อมูลการค้นหาโบรกเกอร์ Forex ที่ได้รับความนิยมสูงสุด

ค่าธรรมเนียมการเทรด

มันไม่ง่ายเลยที่จะทำเงินจากการเทรด Forex นั่นคือสิ่งที่เราทุกคนต่างก็เห็นด้วย ดังนั้นพวกเราจึงต้องมองหาโบรกเกอร์ที่คิดค่าธรรมเนียมบนแพลตฟอร์มการเทรดใน ระดับต่ำ ค่าธรรมเนียมการเทรดคือ ค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่คำนวณจาก 2 ส่วนหลัก ได้แก่ ค่าสเปรด (Spread) + ค่าคอมมิชชั่น (Commission) และนอกนั้นเป็นค่าใช้จ่ายอื่นๆ

• ค่าสเปรด (Spread) ของโบรกเกอร์ Forex ที่ดีที่สุด

อันดับแรก เราจะทำการเปรียบเทียบค่าสเปรดของทั้ง 5 โบรกเกอร์ที่ได้กล่าวถึงในข้างต้น และขอรับประกันเลยว่า ค่าสเปรดของโบรกเกอร์เหล่านี้คือค่าสเปรดที่สูงที่สุดในตลาด Forex ซึ่งเราจะแสดงค่าสเปรดของคู่สกุลเงินที่เป็นที่นิยมสูงที่สุดคือ EUR/USD

• ค่าคอมมิชชั่น (Commission) ของโบรกเกอร์ Forex ที่ดีที่สุด

ต่อมา เราจะเปรียบเทียบค่าคอมมิชชั่น (Commission) ของแต่ละโบรกเกอร์ ซึ่งพบว่า โบรกเกอร์ทั้งหมดต่างไม่มีการคิดค่าคอมมิชชั่นใดๆ เลยสำหรับบัญชีปกติทั่วไป แต่สำหรับบัญชีประเภท ENC จะมีการคิดอัตราค่าคอมมิชชั่นที่ต่างออกไป โดยสาเหตุที่โบรกเกอร์ต้องมีการคิดค่าคอมมิชชั่นสำหรับบัญชี ECN ก็เพราะค่าสเปรดของบัญชีประเภทนี้ต่ำมากจนแทบจะเป็นศูนย์

• เงินคืน (Rebate) / โบนัส (Bonus)

อีกหนึ่งอย่างที่พวกเราคิดว่าคุณจะต้อง ชอบก็คือ โบนัส (Bonus) และส่วนลด แน่นอนว่ามันฟังดูเหมือนจะดีในตอนแรก แต่ทุกอย่างล้วนมีสองด้าน ถ้าคุณไม่ระมัดระวังให้ดี โบนัสก็อาจกลายเป็นเหยื่อล่อของบรรดาโบรกเกอร์ Forex ที่จ้องจะตกคุณได้

เงื่อนไขการเทรด

• อะไรคือบัญชีโบรกเกอร์ Forex ที่ดีที่สุด

เราสามารถแบ่งนักเทรดออกเป็น 3 ระดับ ได้แก่ เทรดเดอร์มือใหม่ เทรดเดอร์ทั่วไป และเทรดเดอร์มืออาชีพ ดังนั้นแล้ว โบรกเกอร์ที่ดี จะต้องมีบริการบัญชีซื้อขายหลายประเภท เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของเทรดเดอร์ได้ในทุกระดับ เงื่อนไขทางบัญชีของทั้ง 5 โบรกเกอร์ที่เราแนะนำนั้นใกล้เคียงกัน ทุกโบรกเกอร์ต่างก็มีบัญชีเทรดทั้งหมด 3 ประเภท จำแนกตามเป้าหมายการเทรดของเทรดเดอร์แต่ละระดับ : บัญชี Mini/Micro, บัญชี Standard และบัญชี ECN สำหรับเทรดเดอร์แต่ละประเภทตามลำดับ

• เลเวอเรจ (Leverage) ของโบรกเกอร์ Forex ที่ดีที่สุด

ปัจจัยน่ารู้อื่นๆ ก็คือ เลเวอเรจ (Leverage) ของบัญชีซื้อขาย เลเวอเรจเป็นเครื่องมือที่นักเทรดทั่วโลกส่วนใหญ่ต่างชื่นชอบ โดยทั่วไปแล้ว โบรกเกอร์ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของอังกฤษ อเมริกา และญี่ปุ่น จะมีค่าเลเวอเรจต่ำ เพราะพวกเขาต้องปฏิบัติตามใบอนุญาตของประเทศที่ออกใบอนุญาตให้ ดังนั้น อย่างที่ได้บอกไปแล้วว่า บรรดาโบรกเกอร์ที่มีใบอนุญาติหลายใบมักจะมีความสามารถทางการแข่งขันที่น้อย กว่า ซึ่งในจำนวนโบรกเกอร์ทั่วโลกที่น่าเชื่อถือ โบรกเกอร์ Forex ที่มีรายชื่อต่อไปนี้มีค่าเลเวอเรจที่ดีที่สุด

• แพลตฟอร์มการเทรด (Trading Platform) ของโบรกเกอร์ Forex ที่ดีที่สุด

แต่สิ่งที่พวกเราอยากจะเน้นย้ำก็คือ เรื่องแพลตฟอร์มการเทรด (Trading Platform) ของโบรกเกอร์ ณ ขณะนี้ MT4 และ MT5 คือ 2 แพลตฟอร์มการเทรดที่เป็นที่นิยมที่สุดในตลาด Forex ไม่ว่าโบรกเกอร์ไหนก็ต้องมี 2 แพลตฟอร์มการเทรดนี้ อย่างไรก็ตาม แพลตฟอร์มการเทรดของแต่ละโบรกเกอร์ย่อมมีความต่างในแง่ของความเร็วและคุณภาพ ในการดำเนินการ ซึ่งสองปัจจัยนี้คือสิ่งที่ส่งผลอย่างมากต่อการเทรดของคุณ

• ทีมดูแลลูกค้า

การเทรด Forex นั้นเป็นเรื่องยาก เหล่าโบรกเกอร์ Forex ที่ดีที่สุดจะต้องสามารถให้การสนับสนุนลูกค้าได้ตลอดเวลา และสื่อสารได้หลายภาษา โบรกเกอร์ส่วนมากติดต่อสื่อสารกับลูกค้าของพวกเขาผ่านช่องทางแชตสด หรืออีเมล อย่างไรก็ตาม พวกเราคิดว่าช่องทางที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดก็คือ การสนทนาต่อหน้าแบบ Face to Face และคงจะดีขึ้นไปอีกถ้าโบรกเกอร์มีที่ตั้งสำนักงานอยู่ในท้องถิ่น

ดูเหมือนว่า Exness จะเป็นโบรกเกอร์มีทีมสนับสนุนที่ดีที่สุด โบรกเกอร์นี้มีทั้งทีมงานฝ่ายขาย ทีมสนับสนุน และทีมการตลาดที่เข้มแข็งมาก ซึ่งทุกคนพร้อมเสมอสำหรับการตลาดในท้องถิ่น นอกจากนั้น ยังมีระบบ IB ที่มีประสิทธิภาพมากอีกด้วย ดังนั้น ไม่ว่าคุณมีปัญหาอะไรก็ตาม เพียงแค่คุณติดต่อกับโบรกเกอร์ผ่านหน้าเว็บไซต์ คุณก็จะได้รับคำปรึกษากลับมาในทันที และยิ่งไปกว่านั้นก็คือ โบรกเกอร์ Exness มีการให้บริการช่วยเหลือลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง

• ระบบการชำระเงิน

สุดท้ายแต่ไม่ท้ายที่สุด ก็ต้องเป็นเรื่องระบบการชำระเงิน คุณอาจจะเห็นว่ามันไม่ได้มีสาระสำคัญอะไรเลยในตอนแรก แต่เมื่อคุณได้ทำการเทรดกับโบรกเกอร์แล้ว คุณจะเข้าใจว่า หัวข้อนี้สำคัญอย่างไร โบรกเกอร์ส่วนใหญ่ล้วนเป็นบริษัทต่างชาติ ดังนั้นคุณจึงต้องมีการโอนเงินและถอนเงินไปต่างประเทศ แล้วยิ่งธนาคารมีการคิดค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมด้วย ลำพังการทำกำไรให้ได้จาก Forex ก็ยุ่งยากพออยู่แล้ว และตอนนี้ยังจะถูกธนาคารหักเพิ่มอีกหรอ?มันไม่ควรเป็นแบบนั้นเลย

ตัวอย่าง : เมื่อคุณโอนเงินผ่านบัตร VISA คุณจะถูกหัก 3-5% ของจำนวนเงินที่คุณโอน บรรดาบริษัท Forex ที่ดีที่สุดควรต้องมีระบบหรือวิธีการชำระเงินแบบอื่นๆ ที่ไม่ใช่แค่ไม่มีค่าธรรมเนียม แต่ยังมีความสะดวก รวมถึงต้องมีความรวดเร็วด้วย พวกเราเคยต้องรอเป็นเวลาหลายวัน หรือเป็นสัปดาห์ เพียงเพื่อจะถอนเงินกำไรออกจากโบรกเกอร์ นั่นเป็นเรื่องที่น่าผิดหวังมากจริงๆ

ในหัวข้อนี้ โบรกเกอร์ Exness ถือว่าชนะขาดลอยอย่างไร้คู่แข่ง Exness ให้บริการเร็วขนาดนี้ได้ยังไงกัน? นั่นก็เพราะว่า Exness มีระบบการถอนเงินแบบอัตโนมัติ ที่ไม่ต้องอาศัยการแทรกแทรงของคนเลย และแน่นอนว่าเครื่องจักรย่อมต้องทำงานได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ Exness ยังมีระบบการชำระเงินรูปแบบอื่นๆ ที่สะดวกอีกมากมาย ซึ่งคุณสามารถฝากเงินผ่านมือถือได้ แม้เพียง $1 โดยใช้เวลาแค่ 30 วินาทีเท่านั้น และยังไม่มีการคิดค่าธรรมเนียมใดๆ เพิ่มอีกด้วย ไม่เพียงเท่านั้น สิ่งที่ล้ำที่สุดที่มีเฉพาะ Exness ก็คือ คุณสามารถทำการฝาก/ถอนเงินได้ตลอด แม้จะเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ก็ตาม

5 โบรกเกอร์ Forex ที่ดีที่สุดนี้ เป็นเพียงโบรกเกอร์ที่เหมาะสำหรับเทรดเดอร์รายใหญ่ แต่ถ้าคุณยังคงมีข้อสงสัย คุณสามารถลองเปิดบัญชีกับแต่ละโบรกเกอร์ โบรกเกอร์ละ 1 บัญชีดูได้ (พวกเขามีข้อกำหนดการฝากเงินขั้นต่ำที่ต่ำมาก) คุณอาจลองทำการเทรดกับโบรกเกอร์ซัก 1 หรือ 2 เดือน เพื่อพิจารณาลักษณะการดำเนินการของโบรกเกอร์ว่า เหมาะสมกับรูปแบบหรือสไตล์การเทรดของคุณหรือไม่ และพวกเราเชื่อว่าคุณจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน