การเทรด Forex ให้ประสบความสำเร็จนั้นจะต้องมีทั้งความอดทนสูง, ความรู้ความเข้าใจที่มากพอ, การปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลงของตลาดได้อย่างทันท่วงที และคุณสมบัติอื่น ๆ อีกมากมาย และที่จะขาดไปไม่ได้เลยก็คือจะต้องมีแผนการเทรดที่ครบถ้วนสมบูรณ์จึงจะประสบความสำเร็จในการเทรดได้ แผนการเทรดที่ครบถ้วนสมบูรณ์จะช่วยบอกได้ว่าตอนไหนที่คุณควรเข้าเทรด, ตอนไหนที่ควรออกจากเทรด, ควรเทรดเงินคู่สกุลไหนดี และยังรวมถึงวิธีการบริหารเงินทุนของคุณด้วย Money Management หรือการบริหารเงินทุนนั้นเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งของการเทรดที่คุณจำเป็นต้องเรียนรู้
Money Management คืออะไร?
สาเหตุที่เทรดเดอร์จำนวนมากมักจะเทรดเสียและขาดทุนจากการเทรด Forex ก็คือขาดประสบการณ์ ซึ่งทำให้มองข้ามหลักการ Money Management Forex ไป ทั้งนี้เนื่องจากตลาด Forex มีความผันผวนสูง จึงทำให้เป็นตลาดที่มีความเสี่ยงสูงด้วยเช่นกัน Money Management ใน Forex จึงเป็นปัจจัยหลักที่จะขาดไปไม่ได้เลยทั้งสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่และเทรดเดอร์ที่มากประสบการณ์หากต้องการเทรดให้ประสบความสำเร็จ
บทความนี้จะแนะนำข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการบริหารเงินทุนสำหรับการเทรด FX ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญหากต้องการทำกำไรในระยะยาว หลาย ๆ คนมักจะลืมนึกไปว่าคุณไม่ควรวางแผนแค่เพียงทำกำไรจากการเทรดแค่ครั้งเดียว หรือแค่ดูเรื่องจุดที่จะเข้าและออกจากตลาดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ควรจะต้องนำกลยุทธ์เทคนิคการเทรด Forex มาใช้ในการทำกำไรในระยะยาวด้วย ซึ่งตรงจุดนี้เองที่ทำให้การรู้จักบริหารจัดการด้านการเงินและการบริหารเงินทุนสำหรับการเทรดมีความสำคัญเป็นอย่างมาก
ในบทความนี้เราได้รวบรวมเอา 10 สุดยอดเคล็ดลับ Money Management ที่ดีที่สุดสำหรับเทรดเดอร์ Forex มือใหม่ และยังมีเคล็ดลับ Money Management เด็ดอื่น ๆ สำหรับเทรดเดอร์ Forex ขั้นสูงมาแบ่งปันกันด้วย
หลักจิตวิทยา Money Management Forex
- ลดความเสี่ยงด้วยความ ‘พัฒนาตัวเอง‘
ก่อนที่คุณจะแสวงหาหัวข้อที่ยากขึ้นอย่างการคำนวณ Money Management Forex แล้ว เริ่มต้นคุณควรเริ่มต้นจากการพัฒนาทักษะในการคำนวณก่อน รวมถึงพื้นฐานขนาดของสัญญาว่า การเข้าเทรดแต่ละครั้งจะต้องใช้เงินเป็นจำนวนเท่าใด ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับ ‘หน่วยของการเทรด’ ซึ่งการฝึกการคำนวณ Lot และกำไร-ขาดทุนในการเทรดในตลาดจริง คุณไม่จำเป็นต้องเริ่มต้นด้วยเงินจริงเสมอไป เพราะแม้แต่เทรดเดอร์มืออาชีพเองก็นิยมเข้าไปฝึกฝนในระบบบัญชีเงินจำลองก่อนทั้งนั้น หรือที่เรียกว่า “Demo Account” ซึ่งเป็นระบบที่จำลองเงินขึ้นมาเพื่อใช้เทรด
- สามารถเทรดได้เหมือนตลาดจริงทุกประการ
- สามารถใช้เครื่องมือเทรดและสัมผัสถึงสภาพแวดล้อมแบบบัญชีจริงทุกประการ
- คำนวณกำไรขาดทุนเหมือนเงินจริงทุกประการ และคำนวณตามราคาตลาดจริงๆ
2. รู้จักใช้จุดหยุดขาดทุน (Stop-loss)
การตั้งจุดตัดขาดทุน หรือ “Stop Loss” ถือเป็นหัวใจสำคัญของการวางแผน Money Management Forex ที่สำคัญที่สุด การมีจุด Stop Loss ที่ชัดเจน จะป้องกันไม่ได้เงินลงทุนเสียหายหนักเกินความจำเป็น และเราต้องอย่าลืมว่า ไม่มีใครสามารถเทรดได้ชนะตลอดเวลา
เทรดเดอร์ในตลาด Forex มักใช้กรอบของความผันผวนเป็นตัวคำนวณในการตั้ง Stop Loss ในขณะที่เทรดเดอร์ที่เทรดในตลาดหุ้นอเมริกา จะนิยมตั้งความเสี่ยงเป็นครั้งๆ เช่น จะไม่เสี่ยงเกินครั้งละ 2% ของเงินทุนต่อการเทรดหนึ่งครั้ง
ทั้งนี้ จุดหยุดขาดทุนใน Forex มีหลายประเภทด้วยกัน ซึ่งคุณจะวางคำสั่งหยุดขาดทุนแบบไหนนั้นก็ขึ้นอยู่กับสไตล์และประสบการณ์ในการเทรดของคุณ ประเภทของคำสั่งหยุดขาดทุนที่ใช้กันทั่วไป ได้แก่
- Equity stop
- Volatility stop
- Chart stop (การวิเคราะห์ทางเทคนิค)
- Margin stop
3. มีความสมเหตุสมผล
- หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เทรดเดอร์มือใหม่มักจะเอาเงินลงทุนไปเสี่ยงมากจนเกินไปก็เพราะตั้งเป้าหมายไว้สูงเกินกว่าที่จะเป็นไปได้จริง ซึ่งนี่อาจจะมาจากความเชื่อที่ว่ายิ่งลงทุนด้วยเงินจำนวนมากขึ้นก็ยิ่งทำให้ได้เงินกลับคืนมาได้เร็วขึ้น แต่อันที่จริงแล้วเทรดเดอร์ที่ดีควรจะเทรดให้ได้ผลตอบแทนที่สม่ำเสมอมากกว่า การตั้งเป้าหมายที่เป็นไปได้และสมเหตุผลเป็นจุดเริ่มต้นของการเทรดที่ถูกต้อง
4. ยอมรับเมื่อทำผิดพลาด
- กฎเหล็กของการเทรดก็คือเทรดให้ได้กำไรและหยุดเมื่อขาดทุน สิ่งสำคัญก็คือต้องออกจากการเทรดให้ทันท่วงทีเมื่อใดก็ตามที่เห็นชัดแล้วว่าคุณกำลังเทรดเสีย เป็นเรื่องปกติของมนุษย์เราที่อยากจะลองเทรดต่อเพราะคิดว่าอาจมีโอกาสพลิกสถานการณ์จากร้ายเป็นดีก็ได้ แต่นี่ถือเป็นข้อผิดพลาดสำหรับการเทรด FX ที่ไม่ควรทำ เพราะอะไรน่ะเหรอ ก็เพราะคุณไม่มีทางควบคุมตลาดได้นั่นเอง
5. เตรียมตัวให้พร้อมรับมือสถานการณ์ที่แย่ที่สุด (ผลตอบแทนการลงทุนในอดีตไม่ใช่ตัวบ่งชี้ผลตอบแทนการลงทุนที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต)
- เราไม่มีทางรู้ล่วงหน้าได้เลยว่าภาวะตลาดในอนาคตจะเป็นเช่นไร แต่ก็สามารถใช้ข้อมูลในอดีตมาช่วยในการคาดเดาตลาดได้ สิ่งที่เคยเกิดขึ้นมาก่อนอาจจะไม่เกิดซ้ำอีก แต่ก็แสดงให้เห็นว่าอาจเกิดอะไรขึ้นได้บ้าง ดังนั้นจึงเป็นเรื่องจำเป็นที่คุณจะต้องย้อนกลับไปดูข้อมูลในอดีตของคู่สกุลเงินที่คุณกำลังเทรดอยู่ด้วย และลองนึกดูว่าจะต้องใช้วิธีการอย่างไรเพื่อคุ้มครองเงินลงทุนของตนเองหากเกิดกรณีแย่ใด ๆ ซ้ำขึ้นอีก
- อย่าประเมินค่าความผันผวนของราคาอย่างรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นต่ำเกินไป แต่ควรจะเตรียมพร้อมสำหรับกรณีดังกล่าวไว้ด้วย คุณอาจไม่จำเป็นต้องขุดคุ้ยข้อมูลย้อนหลังไปในอดีตมากมายนักเพื่อหาตัวอย่างกรณีที่เกิดราคาผันผวนอย่างรุนแรงก็ได้
6. มองหาจุดออกจากตลาดไว้ก่อนที่จะเข้าเปิดสถานะสัญญาซื้อขาย
- ลองคิดเอาไว้ในใจดูก่อนว่าคุณจะออกจากตลาดที่ระดับราคาไหนหากทำกำไรได้ และจุดหยุดขาดทุนของคุณจะอยู่ที่ระดับใด การเตรียมพร้อมเอาไว้เช่นนี้จะช่วยให้คุณยังเทรดตามหลักเกณฑ์ที่ตั้งไว้ได้ไม่ว่าสภาวะตลาดจะเป็นอย่างไรก็ตาม นอกจากนี้ยังทำให้คุณรู้จักชั่งน้ำหนักระหว่างความเสี่ยงกับผลตอบแทนที่จะได้รับอีกด้วย
7. หลีกเลี่ยงการเทรดในลักษณะที่มีความเสี่ยงมากเกินไป
การเทรดในลักษณะที่มีความเสี่ยงมากเกินไปถือเป็นข้อผิดพลาดที่เทรดเดอร์มือใหม่ชอบทำ ถ้าหากว่าการขาดทุนเพียงเล็กน้อยหลาย ๆ ครั้งต่อเนื่องกันทำเอาเกือบล้างพอร์ต (เงินลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ทั้งหมด) ของคุณได้ นั่นหมายความว่าการเทรดแต่ละเทรดนั้นมีความเสี่ยงมากเกินไป ข้อแนะนำในการกำหนดระดับความเสี่ยงให้เหมาะสมก็คือต้องปรับขนาดของสถานะสัญญาให้สอดคล้องกับความผันผวนของคู่สกุลเงินที่คุณกำลังเทรดอยู่ ต้องจำไว้ว่ายิ่งคู่สุกลเงินมีความผันผวนมากเท่าไหร่ก็ยิ่งต้องปรับขนาดของสถานะสัญญาให้เล็กลงเท่านั้น
8. ทำความเข้าใจและอย่ามองข้ามความสำคัญของเลเวอเรจ
เลเวอเรจถือเป็นตัวเปิดโอกาสให้คุณเพิ่มผลกำไรได้มากยิ่งขึ้นจากเงินทุนที่คุณมีอยู่ แต่เช่นเดียวกันมันก็เพิ่มความเสี่ยงให้มากขึ้นตามไปด้วย เลเวอเรจเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์มาก แต่คุณจะต้องรู้และเข้าใจในการใช้เลเวอเรจเป็นอย่างดีด้วย โบรกเกอร์ของคุณอาจจะให้เลเวอเรจสำหรับบัญชีของคุณเพื่อให้คุณสามารถเทรดและรับผลกำไรที่มากขึ้น แต่คุณก็ต้องระมัดระวังในการใช้เครื่องมือดังกล่าวด้วย ตัวอย่างเช่น ค่าเลเวอเรจ 1:200 ของบัญชีเงินทุนขนาด $400 แสดงว่าคุณสามารถวางคำสั่งเทรดได้ในปริมาณสูงสุดถึง $80,000 และหากเลือกใช้ค่าเลเวอเรจ 1:500 คุณก็จะสามารถเทรดได้ในปริมาณสูงสุดถึง $200,000 เลยทีเดียว
9. ลงทุนโดยมองในระยะยาว
ระบบเทรดนั้น ๆ จะถือว่าประสบความสำเร็จหรือล้มเหลวก็ต้องดูจากผลตอบแทนที่ได้ในระยะยาวเป็นหลัก ไม่ต้องไปให้ความสำคัญกับการวัดความสำเร็จหรือความล้มเหลวจากการเทรดที่กำลังเทรดอยู่มากนัก ที่สำคัญจะต้องยึดหลักเกณฑ์ในระบบเทรดของคุณอยู่ตลอดจึงจะทำให้การเทรดในปัจจุบันของคุณนั้นได้ผลดี
สูตร Money Management Forex แบบขั้นสูง
ต้องมีแผนการเทรด Forex
คุณควรมีแผนการเทรด Forex ของตนอยู่ในมือและทำตามหลักเกณฑ์ในแผนการเทรดนั้นไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด ๆ ซึ่งแผนการเทรดของคุณจะต้องมีกลยุทธ์ Money Management รวมอยู่ในนั้นด้วย แผนการเทรดจะช่วยให้คุณเทรดโดยใช้อารมณ์ความรู้สึกน้อยที่สุดและยังป้องกันไม่ให้คุณเทรดมากจนเกินไปด้วย เมื่อมีแผนการเทรดแล้ว ก็จะมีกลยุทธ์สำหรับการเข้าและออกจากตลาดอย่างชัดเจน รู้ว่าเมื่อไหร่ที่ควรเก็บกำไร และเมื่อไหร่ที่ควรหยุดการขาดทุน โดยไม่มีความกลัวหรือความโลภเข้ามาบงการการตัดสินใจเทรด วินัยในการเทรดเป็นสิ่งสำคัญในการบริหารเงินทุน Forex ได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสบความสำเร็จ
ชดเชยเงินทุนที่เสียไป
สำหรับ Money Management ในการเทรด Forex โปรดจำไว้ว่าการจะเอาเงินทุนที่เสียไปนั้นกลับคืนมาให้ได้ไม่ใช่เรื่องง่าย ตัวอย่างเช่นถ้าคุณลงทุนไป $5,000 แล้วขาดทุนไป $1,000 คิดเป็นสัดส่วนขาดทุน 20% ดังนั้นหากจะเอาเงินทุนที่เสียไปกลับคืนมา คุณจะต้องทำกำไรให้ได้ 25% จากเงินลงทุนจำนวนเท่ากัน นอกจากนี้ยังต้องให้ความสำคัญกับสเปรดและค่าคอมมิชชั่นที่จะต้องจ่ายด้วย เพราะนี่ก็เป็นค่าใช้จ่ายส่วนหนึ่งเหมือนกัน ต้องแน่ใจว่าคุณสามารถชำระค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่อาจเกิดขึ้นได้ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบในทางลบกันตัวคุณเอง
จุดหยุดขาดทุน Protective Stops
นอกเหนือจากสิ่งที่ได้กล่าวไปข้างต้นเกี่ยวกับจุดหยุดขาดทุนแล้ว การใช้ Protective Stops ในกลยุทธ์ Money Management Forex ก็เป็นวิธีที่ดีอีกวิธีหนึ่งในการปรับปรุง Money Management ให้ดีขึ้น Protective Stops เป็นจุดหยุดขาดทุนที่ยังทำกำไรได้ หรือจะให้พูดง่าย ๆ ก็คือเมื่อคุณเปิดสถานะและมีกำไรลอยตัว $500 USD ให้ตั้งค่าจุดหยุดขาดทุนในระดับที่จะยังคงมีกำไรลอยตัวมากกว่า $100 USD (ขึ้นอยู่กับทิศทางของกราฟราคา) การทำเช่นนี้ทำให้แม้ว่าราคาจะเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงจนทะลุไปถึงจุดหยุดขาดทุนที่คุณตั้งไว้ คุณก็ยังได้กำไรไม่ว่ายังไงก็ตาม
ไม่เครียดจนเกินไป
พยายามอย่าเครียดเมื่อทำการเทรด กลยุทธ์ Money Management Forex ที่ดีที่สุดจะแนะนำให้เทรดเดอร์ลดความเครียดลง โดยกำหนดเงินลงทุนในปริมาณที่คุณรับได้และจะไม่กังวลมากนักหากต้องขาดทุน
อย่าโลภ
กำจัดความโลภออกไปถือเป็นสูตรสำเร็จของการเทรด เพราะมันอาจทำให้คุณตัดสินใจเทรดผิดพลาดได้ การเทรดนั้นไม่ใช่แค่การเปิดเทรดเพื่อทำกำไรทุกนาที แต่เป็นการเปิดคำสั่งในเทรดที่ใช่และในเวลาที่เหมาะสม รวมถึงการปิดเทรดก่อนเวลาถ้าเห็นว่าคาดการณ์ตลาดผิด นอกจากนี้คุณยังต้องมีวินัยและปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ในกลยุทธ์ Money Management Forex ด้วยจึงจะช่วยพัฒนาการเทรดของคุณให้ดียิ่งขึ้น