คนที่เทรดหุ้นมาก็คงพอเข้าใจการซื้อขายในตลาดหุ้นนั้นต้องซื้อถูก ขายแพงเช่นเดียวกับ Forex แต่ Forex ทํากลับข้างได้คือ สามารถซื้อแพง ที่สุดแล้วขายให้ถูกที่สุดได้ด้วย ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะเป็นการจับคู่เทรด ค่าเงินกัน แล้วอาศัยช่องว่างส่วนต่างของราคามาเป็นกําไร
ขณะที่เราเลือกคําสั่ง buy หรือ long ณ Position ราคาหนึ่ง เมื่อราคาวิ่งสูงขึ้นไปอีกราคาหนึ่ง เราตัดสินใจขายก็คือเราได้กําไร จากส่วนต่าง เช่น
ซื้อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่ 1.30000 แล้วราคาวิ่งไปที่ 1.30100 จากนั้นทําการปิดออเดอร์ เราก็จะได้กําไรจากช่วงราคานี้มา 100 จุด
ขณะที่เราต้องการทํากําไรขาลง เมื่อเราสั่งขาย (เรียกว่า Sell หรือ Short) ในตอนที่เราเปิดออเดอร์ (เปิดออเดอร์ Sell) ราคาหนึ่ง เมื่อราคา วิ่งร่วงลงต่ําไปอีกราคาหนึ่ง เราตัดสินใจขายก็คือเราได้กําไรจากส่วนต่าง เช่น ซื้อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่ 1.30000 แล้วราคาวิ่งไปที่ 1.209000 แล้วทําการปิดออเดอร์นั้นเราก็จะได้กําไรจากช่วงราคานี้มา 100 จุด
ที่สําคัญก็คือ เรายังสามารถซื้อขายได้หลากหลายชนิดสกุลเงิน ในตลาดการเงินแบบตะกร้าเงินมีสกุลอยู่ในตลาดมากมายนับร้อยสกุล แต่ที่น่าสนใจจริงๆ จะมีประมาณ 5 – 10 คู่เงิน นอกจากคู่เงินในตลาดแล้ว ยังมีตลาดโลหะอย่างทองคํา รวมถึงเงินดิจิตอลคริปโตเคอเรนซี หลายสกุลให้ซื้อขายได้ในลักษณะเดียวกันด้วย
ทั้งนี้ Forex มีสกุลเงินหลักที่สําคัญ ได้แก่
USD (ดอลลาร์สหรัฐ) สกุลเงินของประเทศสหรัฐอเมริกา เป็น สกุลเงินที่มีการซื้อขายกันมากที่สุดในโลก
EUR (ยูโร) สกุลเงินของทวีปยุโรป (ยูโรโซน)
JPY (เยน) สกุลเงินของประเทศญี่ปุ่น
GBP (ปอนด์) สกุลเงินของสหราชอาณาจักร
CHF (ฟรังก์สวิส) สกุลเงินของประเทศสวิสเซอร์แลนด์
CAD (ดอลลาร์แคนาดา) สกุลเงินของประเทศแคนาดา
AUD (ดอลลาร์ออสเตรเลีย) สกุลเงินของประเทศออสเตรเลีย
NZD (ดอลลาร์นิวซีแลนด์) สกุลเงินของประเทศนิวซีแลนด์
สกุลเงินทั้งแปดนี้ มีการซื้อขายกันมากที่สุดเมื่อเทียบกับสกุลเงิน อื่นๆ อีกทั้งมีความสําคัญทําให้ตลาด Forex สามารถขับเคลื่อนไปได้ ด้วยเหตุนี้เองจึงมักใช้ชื่อเรียกว่า “สกุลเงินเมเจอร์”
เทรดเดอร์ที่เก่ง ๆ เทรดและวางแผนได้อย่างแม่นยําจึงสามารถ สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกําโดยที่อยู่ตรงไหนก็ได้ขอเพียงมีอินเทอร์เน็ต เข้าถึง โดยเลือกเทรดเฉพาะคู่เงินสกุลเมเจอร์ที่ตนเองถนัดในการอ่าน ค่าพฤติกรรมการวิ่งของกราฟคู่เงินนั้นมากๆ ซึ่งเทรดเดอร์มักจะมีสกุล เมเจอร์ในมือไม่กี่คในการเทรด
( การเทียบคู่เงินที่ใช้ในการเทรด Forex )
ทั้งนี้ ตลาด Forex เป็นตลาดของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่าง ประเทศ ดังนั้นการซื้อและขายจะอยู่ในลักษณะที่เป็นคู่เสมอ เช่น
EUR/USD
เป็นการจับคู่กันระหว่างยูโร (EUR) กับ ดอลลาร์สหรัฐ (USD)
EUR เป็นสกุลเงินหลัก (Base Currency)
USD จะเป็นสกุลเงินรอง (Quote Currency)
สมมติ ขณะนี้อัตราแลกเปลี่ยนของ EUR/USD เป็น 1/1.5000 หมายความว่าถ้าเรามีเงิน 1 ยูโร จะสามารถแลกเปลี่ยนได้เป็นจํานวน 1.5000 ดอลลาร์ ในทางกลับกัน ถ้าเราอยากแลกเงินได้ 1 ยูโร เราก็ต้อง ใช้เงินจํานวน 1.5000 ดอลลาร์เพื่อแลกมา
1. EUR/USD คือ เงินยูโรของสหภาพยุโรป เทียบกับ เงินดอลลาร์ของประเทศสหรัฐอเมริกา
2. GBP/USD คือ เงินปอนด์ของสหราชอาณาจักร เทียบกับ เงินดอลลาร์ของประเทศสหรัฐอเมริกา
3. AUD/USD คือ เงินดอลลาร์ของประเทศออสเตรเลีย เทียบกับ เงินดอลลาร์ของประเทศสหรัฐอเมริกา
4. USD/JPY คือ เงินดอลลาร์ของประเทศสหรัฐอเมริกา เทียบกัน เงินเยนของประเทศญี่ปุ่น
5. USD/CHF คือ เงินดอลลาร์ของประเทศสหรัฐอเมริกา เทียบกับ เงินฟรังก์ของประเทศสวิสเซอร์แลนด์
6. NZD/USD คือ เงินดอลลาร์ของประเทศนิวซีแลนด์ เทียบกับ เงินดอลลาร์ของประเทศสหรัฐอเมริกา
คู่เงินทั้งหกคู่นี้นับว่าเป็นคู่เงินเมเจอร์ที่สําคัญ เนื่องจากเป็นคู่เงิน ที่มีการซื้อขายกันมากที่สุดเมื่อเทียบกับคู่เงินอื่น ๆ อีกทั้งค่อนข้างมีความเคลื่อนไหวของราคาที่มากกว่า
จะสังเกตเห็นว่าทุกคู่เงินจะมี USD เป็นส่วนประกอบด้วย เพราะ USD ถือเป็นสกุลเงินหลักของโลกที่มีการเทรดกันมากที่สุด ทําให้คู่เงินที่คู่กับ USD กลายเป็นคู่เงินหลักไปด้วย
