ธนาคารกลางและอัตราดอกเบี้ยคืออะไร? ปัจจัยทั้งสองมีผลกระทบต่อตลาด Forex อย่างไร? ธนาคารกลางและอัตราดอกเบี้ยมีหน้าที่ความสำคัญอย่างไรต่อระบบเศรษฐกิจของโลก? เชื่อว่านี่คงเป็นคำถามที่นักเทรดมือใหม่มักสงสัยเมื่อเริ่มเข้าสู่แวดวงการเทรดคู่เงินและตราสารการเงินใหม่ๆ ซึ่งก็จริงอยู่ว่าหากจะเข้าใจระบบของธนาคารกลางทั้งหมดนั้นอาจเป็นเรื่องไม่ง่าย แต่สิ่งสำคัญที่ท่านควรรู้ก็คือบทบาทของธนาคารกลางในการควบคุมระบบการเงินของประเทศนั้นๆ
นอกจากนี้ ธนาคารกลางยังมีหน้าที่ในการควบคุมค่าเงินให้คงที่, ลดอัตราเงินเฟ้อให้ต่ำลง หรือแม้กระทั่งควบคุมอัตราการจ้างงานในประเทศ และยังมีหน้าที่สำคัญในการกำหนดค่าเงินของประเทศ โดยธนาคารกลางจะกำหนดอัตราดอกเบี้ยและเครดิตสินเชื่อต่างๆ, ควบคุมธนาคารพาณิชย์ รวมถึงผู้ให้บริการในการแลกเปลี่ยนเงินตราและบริการทางการเงินอื่นๆ
ว่าแต่… ธนาคารกลางมีหน้าที่อะไรในตลาด Forex หรือเปล่า? วันนี้เรามาหาคำตอบกันครับ ^___^
ธนาคารกลางคืออะไร?
ก่อนอื่น ลองมาดูว่าธนาคารกลางใช้เครื่องมืออะไรในการควบคุมสภาวะทางการเงินและตลาดการเงินต่างๆ โดยเครื่องมือที่สำคัญ ได้แก่:
- อัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลาง – หรือที่เรียกกันว่า “อัตราดอกเบี้ยนโยบายของรัฐ” ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการควบคุมกิจกรรมทางเศรษฐกิจภายในประเทศ (ไม่ว่าจะเป็นการลดหรือเพิ่มดอกเบี้ย) โดยคณะกรรมการของธนาคารกลางจะเป็นผู้กำหนดอัตราเหล่านี้ตามสถานการณ์ทางการเงินในประเทศและสภาวะการเงินจากทั่วโลก
- การดำเนินการผ่านตลาดการเงิน – Open Market Operation หรือ OMO เป็นกระบวนการที่ภาครัฐเป็นผู้ซื้อขายพันธบัตร, หุ้น, และสินทรัพย์อื่นๆ ในตลาดเสรี เพื่อคงปริมาณและควบคุมการลงทุนของธนาคารกลางหรือแบงก์ชาติให้เหมาะสม
ทั้งนี้ ธนาคารกลางยังเป็นผู้ให้กู้แหล่งสุดท้ายให้กับนักลงทุนอีกด้วย เพื่อให้นักลงทุนมั่นใจเกี่ยวกับภาระผูกพันทางการเงินของพวกเขานั่นเอง
หน้าที่หลักของธนาคารกลาง
จริงๆ แล้วหน้าที่ของธนาคารกลางนั้นจะแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ ขึ้นอยู่กับสภาวะทางเศรษฐกิจและสถานการณ์การเมืองของประเทศนั้นๆ อย่างไรก็ตาม หน้าที่หลักที่เหมือนกันก็คือการกำหนดนโยบายที่เหมาะสมกับผลประโยชน์สาธารณะ ซึ่งได้แก่:
- การควบคุมระบบการเงินให้มั่นคง และรักษามูลค่าเงินตรา
- ดูแลรักษาและเพิ่มความมั่นคงให้ระบบการเงินโดยการลดความเสี่ยงในภาคการลงทุน
- เพิ่มการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจโดยการร่วมมือกับธนาคารพาณิชย์และสถาบันทางการเงินอื่นๆ โดยใช้นโยบายการเงินและการคลัง รวมถึงใช้กลยุทธ์อื่นๆ ที่มีประสิทธิภาพ
- บริหารจัดการ ควบคุม และดูแลสถาบันทางการเงินอื่นๆ เพื่อให้สอดคล้องกับผลประโยชน์สาธารณะ
- เพิ่มอัตราจ้างงาน และคอยประเมินจำนวนการว่างงานในประเทศ
3 อันดับธนาคารกลางหลักของโลก
วันนี้เราจัด 3 อันดับแบงก์ชาติระดับโลกที่นักลงทุนควรรู้จัก เนื่องจากแบงก์ชาติเหล่านี้มีบทบาทสำคัญอย่างมากในความเคลื่อนไหวของระบบเศรษฐกิจทั่วโลก รวมถึงตลาด Forex ด้วยเช่นกัน:
- Federal Reserve System (FED หรือเฟด) ของสหรัฐฯ – เฟดหรือธนาคารกลางสหรัฐ เป็นหนึ่งในแบงก์ชาติที่มีอิทธิพลมากที่สุดของโลก ทำให้เป็นที่สนใจอันดับต้นๆ ของนักเทรดทั่วโลกเลยก็ว่าได้
- European Central Bank ของยุโรป – ธนาคารกลางยุโรปมีบทบาทสำคัญต่อกลุ่มประเทศสมาชิกของยุโรปทั้งทวีป
- Bank of England ของอังกฤษ – ธนาคารกลางของอังกฤษมีเป้าหมายสำคัญสองอย่าง นั่นก็คือความมั่นคงทางการเงิน และการกำหนดนโยบายการเงินนั่นเอง
และแน่นอนว่ายังมีแบงก์ชาติอีกหลายประเทศที่มีอิทธิพลในการเปลี่ยนแปลงสภาวะทางเศรษฐกิจทั่วโลก โดยแบงก์ชาติที่นักเทรด Forex ควรรู้จักและติดตามได้แก่ ธนาคารกลางญี่ปุ่น, แคนาดา, แบงก์ชาติสวิสเซอร์แลนด์, ธนาคารกลางนิวซีแลนด์ และออสเตรเลีย เป็นต้น
หลักการกำหนดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลาง
ธนาคารกลางไม่ได้มีหน้าที่ในการกำหนดอัตราดอกเบี้ยจากการกู้ยืมของธนาคารพาณิชย์เท่านั้น แต่ยังกำหนดดอกเบี้ยสินเชื่อส่วนบุคคล (Individual loan), สินเชื่อบัตรเครดิต และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วเมื่อธนาคารพาณิชย์มีเงินหมุนเวียนไม่เพียงพอตามระบบการเก็บเงินสดสำรองบางส่วน ธนาคารเหล่านั้นก็มักจะขอกู้ยืมจากธนาคารกลางนั่นเอง
ยิ่งไปกว่านั้น ธนาคารพาณิชย์จะต้องมีเงินทุนเพื่อให้มั่นใจว่าเงินหมุนเวียนเพียงพอต่อการปล่อยสินเชื่อ, มีเงินสดเพียงพอให้ลูกค้าถอนเงินได้ และมีเงินจ่ายค่าคอมมิชชั่นให้นักลงทุน เป็นต้น ดังนั้น ธนาคารพาณิชย์จึงมักจะตั้งอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยจากแบงก์ชาติ เพื่อเป็นการสร้างกำไรให้กับองค์กรของตนนั่นเองครับ
นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมนักเทรด Forex จะต้องเฝ้าติดตามการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากมันเป็นปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลกระทบต่อตลาด Forex ต่อไป
ความเคลื่อนไหวของธนาคารกลางและผลกระทบต่อตลาด
นักเทรดส่วนใหญ่มักจะติดตามข่าวสาร แนวโน้ม และการคาดการณ์การตัดสินใจในการปรับลดหรือเพิ่มอัตราดอกเบี้ยจากผู้ว่าการของธนาคารกลางที่จะส่งผลต่อการเทรดต่อไป ทำให้นักเทรดต้องคอยค้นหาข้อมูลตัวเลขสำคัญต่างๆ เพื่อคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยล่วงหน้าและเทรดได้อย่างแม่นยำ ทั้งนี้ มีคำศัพท์เฉพาะทางที่นักเทรดควรรู้จัก จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย!
คำแรกคือ “Hawkish (เหยี่ยว)” ซึ่งหมายความว่าธนาคารกลางมีแผนที่จะปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย
อีกคำหนึ่งก็คือ “Dovish (นกพิราบ)” ซึ่งหมายความว่าธนาคารกลางมีแผนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนั่นเอง
และหลายๆ ท่านคงเคยได้ยินคำว่า “มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ” มาบ้างแล้ว ซึ่งนั่นหมายความว่าธนาคารกลางกำลังวางแผนในการซื้อพันธบัตรระยะยาวจากการถือครองบางส่วน ซึ่งจะทำให้ Demand ของพันธบัตรเหล่านั้นเพิ่มมากขึ้นนั่นเอง
บทความนี้ไม่มีและไม่ควรถูกพิจารณาว่ามีคำแนะนำหรือคำปรึกษาด้านการลงทุน รวมถึงข้อเสนอหรือการชักชวนในการทำธุรกรรมใดๆ ในตราสารทางการเงิน ทั้งนี้ นักลงทุนควรขอคำแนะนำจากที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน