การตั้งเป้าหมายการเทรดที่ดี สามารถทำให้เราเป็นเทรดเดอร์ที่ดีและทำกำไรได้ในระยะยาว ส่วนใหญ่แล้วเทรดเดอร์มักจะเพิกเฉยกับเรื่องนี้และมักจะคาดไม่ถึง ว่ามันมีความสำคัญกับเรามากน้อยขนาดไหน การตั้งเป้าหมายการเทรด เป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของหมวดจิตวิทยาการเทรด แล้วการตั้งเป้าหมายที่ดีกับการตั้งเป้าหมายไม่ดีต่างกันอย่างไร เราจะมาค้นหาความหมายกันในบทความต่อไปนี้
การตั้งเป้าหมายที่ดีจะส่งผลต่อยอดกำไรขาดทุนของพอร์ท ยอดกำไรของพอร์ทอาจจะออกได้หลายหน้า ซึ่งแตกต่างจาก การตั้งเป้าหมายที่ไม่ได้ ที่นอกจากจะส่งผลต่อกำไรขาดทุนของพอร์ทแล้ว ยังส่งผลต่อ สภาพจิตใจของเทรดเดอร์อีกด้วย สภาพจิตใจของเทรดเดอร์สามารถส่งผลได้ในระยะยาวในการเทรด ซึ่งเกี่ยวเนื่องกันโดยการดูเป้าหมายที่ดีกับไม่ดีเป็นดังนี้
1. เป้าหมายทีดี่ไม่เน้นกำไร
หลายคนอาจจะบอกว่า เทรดแล้วไม่หวังกำไรจะเทรดไปทำไม? การเทรดไม่ได้หวังกำไรไม่ได้หมายความว่าไม่มีกำไร แต่เป็นการพุ่งเป้าหมายไปที่ ความเสี่ยงของระบบมากกว่าที่จะให้ความสนใจกับกำไรเพียงอย่างเดียว ความเสี่ยงถือว่าเป็นหัวใจ สิ่งที่สำคัญคือ การเก็บความเสี่ยงให้ต่ำ และคอยไม่ให้ความเสี่ยงนั้นเกินกว่าที่กำหนดไว้ และความเสี่ยงที่เกินกำหนดจะมีมาตรการในการจัดการอย่างไร ดังนั้นแทนที่จะเน้นไปที่ จำนวนกำไรสิ่งที่ควรเน้น คือ การรักษาเงินในพอร์ทให้ได้มากในเวลาที่การเทรดนั้นไม่ได้เป็นไปอย่างที่เราคิด ขณะที่เวลาที่เป็นอย่างที่เราคิดเราสามารถทำผลตอบแทนได้โดยไม่มีความกังวลนั่นเอง
2. ให้ความสนใจกับ จำนวน Pip หรือ Win %
การให้ความสนใจกับ จำนวน Pip หรือ Win % เป็นสิ่งที่ไม่แตกต่างจากการให้ความสนใจกับจำนวนผลตอบแทน เพราะว่า Pip หรือ Win % นั้นนำเราไปสู่ผลทางจิตวิทยาได้หลายอย่าง เช่น การอยากจะชนะหลาย ๆ ครั้งเมือ่เราแพ้ เราก็เร่งจะเอาคืนโดยทันที บางครั้งตามมาด้วยผลการเทรดที่ขาดทุนต่อเนื่องกัน ซึ่งการเทรดแบบนี้ หรือตั้งเป้าหมายแบบนี้ถือว่าไม่ประสบความสำเร็จนัก การเทรดที่เน้น Win % และไม่มี Stop loss จึงเป็นหายนะของพอร์ทลงทุนเลยก็ได้ แล้วเราควรจะสนใจกับอะไร สิ่งที่เราควรจะสนใจตรงกันข้ามกับ Win % คือ Risk:Reward ไม่สำคัญว่าเราจะได้กำไรเท่าไหร่ หรือว่าจะมีกำไรเป็นตัวเงินเท่าไหร่ แต่สำคัญที่ว่า อัตราความเสี่ยงต่อผลตอบแทนที่เราเข้าเทรด ณ จุดนั้นเท่ากับเท่าไหร่ เช่น พยายามรักษา Reward ให้ได้เท่ากับ 2 หรือ 3 เท่าเป็นอย่างน้อยเป็นต้น
การรักษา Reward ให้ได้สัดส่วนที่เหมาะสม ทำให้เรา Focus ไปที่จุดเสี่ยง และพยายามที่จะรักษาแต้มต่อนั้นไว้ทุกครั้ง เมื่อเรารักษาไว้ได้ก็จะกลายเป็นความเสี่ยงของพอร์ทที่น้อยลงโดยปริยาย
3. การทำบันทึกการเทรด
การทำบันทึกการเทรด ถือเป็นเรื่องดี และน้อยคนนักที่จะสนใจทำการบันทึกการเทรด การทำบันทึกการเทรด หลายคนเห็นว่า เฮ้ย ไม่ต้องบันทึกก็ได้ เพราะว่า เรามีออเดอร์ที่แสดงกำไรขาดทุนในแต่ละออเดอร์นั้นอยู่แล้ว แถมมีราคาเข้าและราคาออกอีก มันไม่มีความจำเป็นเลยที่ต้องบันทึก นั่นแหละครับ ผมก็เคยคิดอย่างนั้น แต่ว่า สิ่งที่มันไม่ได้มีในบันทึกคือ ความรู้สึกของเราตอนเข้าเทรด หรือ ตอนปิดออเดอร์ มันไม่ได้บันทึกไว้ในกำไรขาดทุนเหล่านั้น ซึ่งเรื่องพวกนี้มีความสำคัญมาก มากพอ ๆ กับกำไรขาดทุนของคุณนั่นแหละ
การบันทึกการเทรด นอกจากจะบันทึกความรู้สึกของคุณแล้ว สิ่งที่เราควรทำมากกว่าการบันทึกคือ หากทางแก้ไขในแต่ปัญหาแต่ละหัวข้อ เคยย้อนกลับไปคิดกันหรือเปล่าว่า ความผิดพลาดประเภทใดที่เราสร้างขึ้นบ่อยมากที่สุด ความผิดพลาดประเภทใด ที่สร้างความเสียหายได้มากสุดและมาจากอารมณ์ประเภทไหน นี่แหละครับ สิ่งที่ไม่ได้ปรากฏอยู่ในการเทรด ดังนั้น การทำบันทึกการเทรดจึงเป็นการกำหนดเป้าหมายในการเทรดที่ดีมากอันหนึ่งและสร้างนิสัยการเทรดที่ดีให้กับเรา
4. การฝึกทำตารางชีวิต
การทำตารางชีวิต หลายคนบอกว่า มันไม่ได้เกี่ยวกับการเทรดเลย ทุกวันนี้ผมจะตื่นประมาณ 8 โมง ผมถือว่าเป็นคนตื่นสายในฐานะ Freelance คนที่ไม่มีการมีงานทำ ผมจะอ่านข่าว ดูฟุตบอล อ่านข่าวเศรษฐกิจ เสร็จแล้วผมถึงมาทำงาน ผมเริ่มดูกราฟ และตอนเย็นออกกำลังกาย และตอนกลางคืนเขียนบทความ ผมใช้เวลาอยู่กับหน้าจอในการวิเคราะห์กราฟเพียงวันละ 10 – 15 นาทีหลังจากนั้นจะไม่แตะมันอีกเลย นี่แหละครับ ตารางในการดำเนินชีวิตของเรา มันอาจจะไม่ต้องเปะแบบมาก ๆ แต่ว่าเราต้องฝึกระเบียบและวินัยที่จะปฏิบัติตามตารางที่เรากำหนดไว้ ไม่เช่นนั้น เราก็จะเป็นคนที่ไร้วินัยอยู่อย่างนั้น
จากที่กล่าวมาทั้งหมดถือได้ว่า สามารถทำให้ทราบแล้วว่า การสร้างเป้าหมายที่ดีและการสร้างเป้าหมายที่ไม่ดีแตกต่างกันอย่างไร เพื่อที่จะปรับปรุงฝีมือของเทรดเดอร์ต่อไป